1.) พื้นไม้ลามิเนต (Laminate Wood Flooring) คืออะไร
พื้นไม้ลามิเนต คือ พื้นไม้ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยมีไม้เป็นส่วนประกอบแค่บางส่วน ในปัจจุบันพื้นประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความทนทาน สวยงามเหมือนไม้จริง และติดตั้งง่าย อีกทั้งมีระบบล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ การเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อด้วยกาวมาเป็นการเชื่อมโดยใช้กลไกเล็กๆน้อยๆก็ทำให้การติดตั้งเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว และในส่วนอายุการใช้งานนั้น เกรดธรรมดาจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี และเกรดพรีเมี่ยม มีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
พื้นไม้ลามิเนต ผลิตมาจากผงไม้ หรือ ฝุ่นไม้ ที่ได้มาจากไม้เนื้อแข็ง โดยผ่านกระบวนการบีบอัด หรือบดอย่างละเอียดโดยผสมสารเคมีชนิดต่างๆ เช่น เมลามีน และสารป้องกันความชื้น เพื่อทำปฏิกิริยาให้ตัววัสดุมีประสิทธิภาพ และมีความคงทนเพิ่มมากขึ้น จนได้ออกมาเป็นแผ่นไม้ ที่มีการแบ่งเลเยอร์ส่วนประกอบได้ 4 ชั้น ดังนี้
Benefit : ข้อดี
– มีผิวสัมผัสที่สวยงามให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง
– สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้
– มีความทนทานต่อการรับน้ำหนัก และแรงกระแทกขีดข่วน
– มีน้ำหนักเบา
– ติดตั้ง หรือ เปลี่ยนแผ่นแบบเฉพาะจุดโดยไม่ต้องรื้อใหม่ทั้งหมดเวลาเเผ่นใดแผ่นนึงเกิดความเสียหาย ซึ่งทำได้ง่ายรวดเร็วด้วยระบบกลไกการล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ หรือที่เรียกว่า Click Lock
– สามารถปูทับ พื้นกระเบื้อง เซรามิค ได้เลย
Disadvantage : ข้อเสีย
– ไม่ทนน้ำ และความชื้นสูง ถ้าหากโดนน้ำขังนานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เกิดการพองบวม และบิดตัว
– มีโอกาสโดนปลวกกินถ้าเลือกใช้เกรดไม่ดี
– มักจะเกิดความเสียหายเวลาที่รับน้ำหนักวัตถุที่มีลักษณะเป็นเดือยแหลมคม เช่น ส้นของรองเท้าส้นแหลม เป็นต้น
– ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยการใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือ น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ เพราะจะทำให้พื้นลามิเนตเกิดความเสียหายได้
Application : การนำไปใช้งาน
เหมาะกับการนำไปใช้ปูพื้นภายในอาคารเท่านั้น (ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานภายในอาคารสาธารณะที่มีคนพลุกพล่าน หรือ พื้นที่ ที่มีการขนลำเลียงสิ่งของ และลากจูงสิ่งของที่มีน้ำหนักมากบนพื้นบ่อยๆ เช่น ล๊อบบี้โรงแรม ,โถงสนามบิน ,ทางเดินในห้างสรรพสินค้า หรือ ทางเดินในโรงพยาบาล เป็นต้น)
2.) กระเบื้องแกรนิตโต้
กระเบื้องแกรนิตโต้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้กระเบื้องแกรนิตโต้มีสีสันและขนาดให้เลือกอย่างหลากหลาย ราคาของกระเบื้องแกรนิตโต้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพซึ่งจะแตกต่างกันไปจากส่วนผสมทั้งความคงทนและความสวยงาม ผู้ผลิตบางรายอาจจะมีการใส่ปริมาณผงแกรนิตที่แตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับสูตรในการผลิต ทำให้กระเบื้องแกรนิตโต้นั้นมีเกรดคุณภาพและราคาก็จะขึ้นอยู่กับคุณภาพและกระบวนการผลิตนี้ด้วย
Raw Material : วัตถุดิบ และส่วนประกอบหลัก
กระเบื้องแกรนิตโต้ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีการผลิตโดยการนำเอาผงของหินแกรนิตมาผ่านกระบวนเผาด้วยความร้อนสูงแล้วขึ้นรูปเป็นแผ่นกระเบื้อง
Benefit : ข้อดี
– มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี
– เป็นรอยขีดข่วนยาก
– ไม่กลัวปลวก ทนต่อความชื้นในสภาพอากาศเขตร้อนชื้น
– ทนต่อความร้อนสูง ไม่ติดไฟ ไม่มีกลิ่น และไม่นำไฟฟ้า
– ติดตั้งได้ง่าย และรวดเร็ว
– มีลวดลาย และโทนสีให้เลือกอย่างหลากหลาย
– ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ และหาซื้อได้ง่าย
– ผิวสัมผัสมีความเย็น จึงช่วยสร้างสภาวะอากาศที่เย็นสบายภายในอาคาร แม้ด้านนอกอาคารจะร้อนก็ตาม
– ง่ายต่อการทำความสะอาด
Disadvantage : ข้อเสีย
– เมื่อรื้อแล้ว ไม่สามารถนำกลับมาปูใช้ใหม่ได้
– ไม่เหมาะกับพื้นที่ ที่จะต้องรับน้ำหนักมาก เพราะอาจปริแตก หรือ ร้าวได้
– อุณหภูมิของผิวสัมผัสมีความเย็น ไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานในห้องของผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
Application : การนำไปใช้งาน
สามารถนำไปใช้ปูพื้นได้ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร (ภายนอกใช้แบบผิวหยาบ เพื่อป้องกันการลื่น)
ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้วัสดุปูพื้นประเภทใดนั้น ควรพิจารณาจากคุณสมบัติ และข้อดี – ข้อเสีย ของวัสดุปูพื้นแต่ละประเภท ทั้งนี้ ทางโครงการฯของเราสามารถให้คุณลูกค้าเลือกได้ ว่าวัสดุแบบไหนที่จะเหมาะสมกับความต้องการและจุดประสงค์ของธุรกิจของคุณ